| 
                         ลำดับ 
                     | 
                    
                         เรื่อง 
                     | 
                    
                         แนวทางปฏิบัติ 
                     | 
                
                
                    | 
                         1 
                     | 
                    
                         การนับระยะเวลา  
                     | 
                    
                         - ให้นับระยะเวลาติดต่อกันไปจนถึงวันสิ้นสุด แม้เป็นวันหยุดก็นับรวม เว้นแต่วันสุดท้ายเป็นวันหยุดทำงานให้นับวันเริ่มทำงานเป็นระยะเวลาสิ้นสุด 
                     | 
                
                
                    | 
                         2 
                     | 
                    
                         การลงโทษต่ำกว่าระดับ 
                     | 
                    
                         - ลงโทษต่ำกว่าระดับที่ ตร.กำหนดได้ แต่ต้องมีเหตุอันควรลดหย่อนประกอบ  
                        - หนังสือ ตร.ซักซ้อมกรณี ตร.วางระดับโทษไว้สูงแต่เกินอำนาจ ผบ.จะสั่งลงโทษได้ ให้พิจารณาปรับระดับโทษให้อยู่ในอัตราที่สามารถลงโทษได้   | 
                
                
                  3  | 
                  เมื่อข้าราชการตำรวจต้องหาคดีอาญา  | 
                  - การรายงานเมื่อต้องคดี / หลักเกณฑ์แนวทางการพิจารณา  
                    - ข้อสังเกตุ ก.ตร.ในการมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ให้ระบุพฤติการณ์และการกระทำในรายละเอียดอันเป็นมูลให้ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นหลัก ส่วนกรณีต้องหาคดีอาญานั้นให้ระบุเพิ่มเติมเพื่อเป็นการประกอบข้อกล่าวหาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น 
                    - คณะ กก.สอบสวนสรุปสำนวนโดยมีความเห็นให้รอฟังผลคดีอาญา เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฏ ก.ตร.  
                  - ผบ.พิจารณาสั่งการทางวินัยโดยไม่รอฝังผลคดีอาญา หากผลสั่งการแตกต่างจากคำพิพากษา ถ้าทำไปโดยถูกต้องตาม กม.และสุจริต หาต้องรับผิดไม่  
                  - ในการตั้งคณะ กก.สอบสวนกรณีต้องหาคดีอาญาทุกเรื่องหากคดีถึงที่สุดโดยอัยการสั่งไม่ฟ้องให้ขอทราบสรุปพยานหลักฐานพร้อมความเห็นอัยการแนบสำนวนทุกกรณี  
                  - หนังสือ ตร. ก.ค.55 แนวทางปฏิบัติกรณีข้าราชการตำรวจต้องหาคดีอาญาแล้วหลบหนี หากจะสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนให้พิจารณาสั่งเมื่อพ้นกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่หลบหนีคดีอาญาหรือละทิ้งหน้าที่ไป และสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันควบคู่ไปด้วย   | 
                
                
                  4  | 
                  การเป็นหนี้สินส่วนตัว  | 
                  - โดยหลักไม่ให้ ผบ.เข้ายุ่ง เว้นแต่ก่อหนี้สินมากมายอื้อฉาวเสื่อมเสียถึงตำแหน่งหน้าที่หรือพฤติการณ์คดโกงใช้เล่ห์เลี่ยมเพทุบายอันมิชอบหรือมีการไกล่เกลี่ยแล้วยังเพิกเฉยหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล | 
                
                
                    | 
                         5 
                     | 
                    
                         การล้างมลทิน 
                     | 
                    
                         - มติ ก.ตร. ไม่ว่าคำสั่งลงโทษจะผิดขั้นตอน, ไม่ชอบด้วย กม., ไม่มีอำนาจหรือเกินอำนาจ ย่อมถือว่าเป็นผู้ถูกลงโทษทางวินัย เข้าหลักเกณฑ์ล้างมลทิน 
                    - คณะ กก.กฤษฎีกาตอบข้อหารือ : อยู่ระหว่างรับโทษซึ่งยังไม่ครบกำหนด ไม่ต้องรับโทษอีก / รับโทษวินัยไม่ร้ายแรงครบแล้ว ผบ.ชั้นเหนือเพิ่มโทษไม่ได้ ถือว่าได้รับโทษไปแล้วบางส่วน 
                    - พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.2550 
                    - ได้รับการล้างมลทินแล้ว แต่ต่อมาถูกศาลพิพากษาจำคุกแม้จะเป็นเรื่องเดียวกันก็สามารถลงโทษทางวินัยได้ฐานกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก ไม่เป็นการลงโทษทางวินัยซ้ำ 
                    - สรุปหลักการตาม พรบ.ล้างมลทิน  
                    - พรบ.ล้างมลทิน เป็นเพียงการให้ลบล้างโทษทางวินัยที่เคยได้รับเท่านั้น ไม่มีผลเป็นการลบล้างการกระทำผิดวินัยตามความเป็นจริงที่ได้กระทำขึ้นให้หมดสิ้นไปแต่อย่างใด   | 
                
                
                    | 
                         6 
                     | 
                    
                         คณะกก.กลั่นกรองการพิจารณาสั่งลงโทษ 
                     | 
                  
                         - กรณีสอบสวนวินัยร้ายแรง ผบ.เห็นว่าไม่ผิดหรือผิดแต่ไม่ร้ายแรง มิใช่กรณีต้องนำเข้าที่ประชุมคณะ กก.กลั่นกรอง / กรณีคณะ กก.ฯ ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 30 วัน วันเริ่มนับให้ถือวันที่ ป.กก. ได้รับสำนวน / กรณีมีผู้ถูกกล่าวหา 2 รายหรือมากกว่า บางรายจะลงโทษไล่หรือปลด บางรายไม่ถึงไล่หรือปลด ให้นำเข้าคณะ กก.ฯ เฉพาะรายที่จะไล่หรือปลด  
                   | 
                
                
                    | 
                         7 
                     | 
                    
                         การกลับสู่ฐานะเดิม 
                     | 
                    
                         - กรณีผู้ถูกกล่าวหาถูกสำรองราชการ การกลับสู่ฐานะเดิมตาม ม.87 ฐานะเดิมมิใช่สำรองราชการ แต่เป็น ผกก. หรือ รอง ผกก. หรือ สว.ฯลฯ 
                        - มติ ก.ตร.กรณีถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก หรือให้ออกไว้ก่อน และต่อมากลับเข้ารับราชการหรือกลับสู่ฐานะเดิม ให้ใช้วิธีการสั่งให้ประจำตามกฏ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งประจำฯ ข้อ2(8) ได้  
                        - มติ ก.ตร.กรณี ผบ.ได้รับสำนวนการสอบสวนและไม่สามารถพิจารณาสั่งการให้เสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาตาม ม.87 วรรคสอง แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ ผบ.ก็ต้องมีคำสั่งให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม แต่ผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ผบ.ก็ต้องสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนด้วยเหตุจากคดีอาญาอีกกรณีเป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกควบคุมฯ  | 
                
                
                    | 
                         8 
                     | 
                    
                         ผลการไต่สวนและชี้มูลความผิดของป.ป.ช. 
                     | 
                    
                         - กรณี ป.ป.ช.มีความเห็นว่าไม่ผิดและมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป มิได้ผูกพัน ผบ.ให้ต้องพิจารณาสั่งการตามความเห็นและมติ ป.ป.ช.แต่อย่างใด / ป.ป.ช.แจ้งผลมีมติเป็นร้ายแรง ก่อน ผบ.สั่งไล่หรือปลดออกต้องให้คณะ กก.กลั่นกรองฯ ประชุมมีมติก่อน 
                   | 
                
                
                  9  | 
                  การละทิ้งหน้าที่ราชการ | 
                  - ระดับโทษ, ความหมาย, และการนับวันละทิ้งหน้าที่ราชการ 
                    - มติ ก.ตร.ละทิ้งหน้าที่หลายครั้งในเวลาใกล้เคียงกันโดยไม่มีเหตุสมควรแม้แต่ละครั้งไม่เกิน 15 วัน ผบ.ควรพิจารณาในความผิดร้ายแรงฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง 
                    -ขาดราชการหลายครั้ง ลงโทษแล้วไม่หลาบจำ ให้ ผบ.พิจารณาสั่งให้ออกจากราชการฐานประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ฯ และตัวอย่างคำสั่งในกรณีนี้ 
                    -การนับวันละทิ้งหน้าที่ฯ ของตำรวจประจำ สน.สภ.ซึ่งไม่ต้องลงชื่อทำงาน 
                  -การละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่อาจเกิดจากการไม่มาทำงานเลยหรือเป็นกรณีลงชื่อมาทำงานแต่ไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานที่ที่ได้รับมอบหมาย  | 
                
                
                  10  | 
                  เงินสนับสนุนคณะ กก.สอบสวน | 
                  -พ.ร.ฎ.เบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ.2547 
                    -พ.ร.ฎ.เบี้ยประชุมกรรมการ (ฉบับที่2) พ.ศ.2550 
                    -ประกาศ ก.คลัง ก.พ.53 เรื่องกำหนดรายชื่อคณะ กก.ฯ ที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมฯ และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและรายครั้งฯ สำหรับ กก.ฯ  
                    -หนังสือกรมบัญชีกลาง เม.ย.53 ตอบข้อหารือสนง.คณะกก.ฯ การศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกก.สอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ ถือเป็นคณะกก.ที่ได้รับการแต่งตั้งตามบทบัญญัติแห่งกฏหมาย มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมกรรมการ  
                  -หนังสือกรมบัญชีกลาง ก.ย.51 คณะกก.สอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเป็นคณะกก.ที่แต่งตั้งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมกรรมการ 
                   | 
                
                
                  11  | 
                  แบบตรวจสำนวนการสอบสวน | 
                  -เพื่อประโยชน์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของขั้นตอนการสอบสวน | 
                
                
                  12  | 
                  ข้าราชการตำรวจถูกฟ้องล้มละลาย | 
                  -หลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย / การรายงานตนต้องคดีล้มละลายภายใน 3 วัน นับแต่ได้รับหมายศาล / การเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฏ ก.ตร. 
                   | 
                
                
                  13  | 
                  การพิจารณาเบื้องต้นในการดำเนินการทางวินัย | 
                  -ข้อสังเกตุบางประการเกี่ยวกับการพิจารณาในเบื้องต้น | 
                
                
                  14  | 
                  การดำเนินการกรณีผู้ถูกลงโทษกักขัง เจ็บป่วย  | 
                  -ผู้ถูกลงโทษกักขังเจ็บป่วยจนต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.จนล่วงพ้นระยะเวลากักขัง หากมิได้ออกจาก รพ.ไปภายในระยะเวลาการลงโทษถือได้ว่าได้รับโทษครบตามกำหนดเวลาลงโทษแล้ว | 
                
                
                  15  | 
                  ตัวอย่างสำนวน | 
                  -สำนวนการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีละทิ้งหน้าที่ฯ 
                  -สำนวนการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกรณีตรวจอนุญาตและบันทึกข้อมูลโดยบุคคลต่างด้าวมิได้เดินทางเข้ามาในราชอาราจักรจริง 
                  -สำนวนการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกรณีเป็นชู้  | 
                
                
                  16  | 
                  สรุปย่อกฏ, ระเบียบ, คำสั่งฯ ที่สำคัญ  | 
                  -สารบัญ,สรุปย่อ 
                    -สรุปย่อกฎ, ระเบียบ, คำสั่งที่สำคัญ  | 
                
                
                  17  | 
                  แนวทางการลงโทษวินัยร้ายแรง  | 
                  - ปลดออก กรณีทุจริตและประพฤติมิชอบในการจัดซื้อ การจัดจ้าง การเบิกจ่ายวัสดุก่อสร้าง วัสดุไฟฟ้า เพื่อการซ่อมแซมอาคาร 
                    - ไล่ออก กรณีเป็นพนักงานสอบสวนเรียกรับเงินทำสำนวนคดี 
                    -ไล่ออกกรณีตรวจค้นจับกุมยาบ้าและเรียกร้องเอาเงินจากผู้ถูกจับกุมเพื่อไม่ส่งตัวดำเนินคดี 
                    - ปลดออก กรณีถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ 
                    - ไล่ออก กรณีมีส่วนรู้เห็นคนร้ายใช้อาวุธปืนซึ่งตนเองครอบครองไปใช้ฆ่าผู้อื่น 
                    - ปลดออก กรณีเมาสุรายิงปืนขึ้นฟ้า 
                    - ปลดออก กรณีนำอาวุธปืนของทางราชการไปจำนำ 
                  - ไล่ออกกรณีเป็นตำรวจ ตม.ผู้ครอบครองรอยตราประทับที่ปรากฏในหนังสือเดินทางปลอม 
                  - แนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรงของ ก.ตร.(ระดับโทษ ก.ตร.) 17 ลักษณะความผิด  
                  - ตัวอย่างแนวทางการลงโทษของ ก.ตร.ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงในความผิดเกี่ยวกับละทิ้งหน้าที่ราชการ, การสอบ, สุรา, อาวุธปืน, ชู้สาว, การพนัน, ฉ้อโกง, ยาเสพติด, ป่าไม้ และอื่นๆ  | 
                
                
                  18  | 
                  แนวทางการลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง | 
                  - เมาสุราจะเบ่งกินฟรี 
                    - ก้าวร้าว หาว่าผู้บังคับบัญชาไม่มีน้ำยา 
                    - บันดาลโทสะชกต่อยภรรยาน้อย 
                    - ไม่ดูแลภรรยา แชร์ล้ม หนี้สินจำนวนมาก 
                    - พกปืนหลวงไปในทางสาธารณะนอกเวลาราชการ 
                    - จดทะเบียนสมรสซ้อน ไม่เลี้ยงดูบุตร เปลี่ยนนามสกุลไม่แจ้งผู้บังคับบัญชา 
                    - ปลูกสร้างต่อเติมแฟลต (บ้านพักข้าราชการ) โดยไม่ได้รับอนุญาต 
                    - ไม่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการ 
                    - อ้างการจราจรติดขัดไปไม่ทันการเป็นพยานศาล 
                    - ปล่อยให้ผู้เสียหายรอแจ้งความเป็นเวลานาน ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุล่าช้าและไม่รับคำร้องทุกข์ลงเลขคดีในทันที 
                    -ไม่สามารถติดตามผู้เสียหาย พยานมาเบิกความจนศาลยกฟ้อง 
                    - เสพสุรามึนเมาทะเลาะวิวาทกันเอง ถูกเชิญตัวไป สน. ไม่ยอมรอร้อยเวร 
                    -รายงานตนต้องคดีอาญาล่าช้า 
                    - เป็น พงส.รับคำร้องทุกข์ล่าช้า 
                  - ไม่เลี้ยงดูภรรยา เกี่ยวข้องหญิงอื่นในทางชู้สาว 
                  - มาตรฐานการลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงของ ตร.(ระดับโทษ ตร.) 15 ลักษณะความผิดและตัวอย่างของพฤติการณ์, โทษ ตามลักษณะความผิดต่างๆ   | 
                
                
                  19  | 
                  กฏ, ระเบียบ ฯลฯ ที่ควรทราบ  | 
                  - การเรี่ยไร 
                  - การแต่งกาย (เครื่องแบบตำรวจ)  
                  - การรายงานตนเมื่อถูกอ้างเป็นพยาน  | 
                
                
                    | 
                         20 
                     | 
                    
                         ตัวอย่างคำสั่ง 
                     | 
                    
                         -เพิกถอนคำสั่งลงโทษและให้กลับเข้ารับราชการ___กรณีศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งไล่ออกและให้ดำเนินการสอบสวนและลงโทษทางวินัยให้ถูกต้องตามกม.ต่อไป 
                        - เปลี่ยนแปลงคำสั่งลงโทษจากให้ออกฯ เพื่อรับบำเหน็จบำนาญเพราะมีมลทินหรือมัวหมองเป็นลงโทษไล่ออก_____กรณี ก.ตร.มีมติยกอุทธรณ์และให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นไล่ออก  
                        - ยกโทษไล่ออก_____เนื่องจากอุทธรณ์ฟังขึ้น แต่ไม่สามารถสั่งให้กลับเข้ารับราชการได้เนื่องจากถูกลงโทษไล่ออกกรณีอื่นด้วย  
                        - ให้ออกจากราชการไว้ก่อน_____โดยเหตุถูกตั้ง กก.สอบสวนหรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ ถ้าให้อยู่ฯ อาจเกิดเสียหายแก่ราชการ และการสอบสวนจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว 
                        -ลงโทษไล่ออก_____กรณีถูกไล่ออกไปก่อนหน้าแล้ว_____วันออกจากราชการจะย้อนหลังไปเป็นวันที่ถูกไล่ออกก่อนหน้านั้น 
                        -ลงโทษไล่ออก_____กรณีนอกราชการจากการลาออก_____วันออกจากราชการจะย้อนหลังไปเป็นวันที่ลาออกจากราชการ 
                        -ลงโทษไม่ร้ายแรง_____กรณีรับสารภาพซึ่งถือเป็นความผิดปรากฏชัดแจ้งไม่ต้องสอบสวน 
                         - เพิ่มโทษ_____กรณี บช.ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมาช่วยราชการ ตร.เห็นว่ายังไม่ถูกต้องเหมาะสม ตร.จึงสั่งเพิ่มโทษและสั่งยกเลิกคำสั่งลงโทษของ บช.  
                        - ยกโทษและงดโทษทางวินัย_____กรณีอุทธรณ์ ก.ตร.ฟังขึ้น ก.ตร.มีมติให้ ตร.มีคำสั่งยกโทษไล่ออกและสั่งให้กลับเข้ารับราชการและให้ลงโทษไม่ร้ายแรงไปในอำนาจ แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้ออกจากราชการแล้วเนื่องจากเกษียณอายุราชการ จึงให้งดโทษ 
                        - ตั้ง คณะ กก.สอบสวนร่วมกันระหว่าง ตร. และกรมการปกครอง_____กรณีข้าราชการต่างสังกัดกรมกระทรวงฯ ทำผิดวินัยร้ายแรงร่วมกัน 
                   | 
                
                
                  21  | 
                  เมื่อข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด | 
                  - แนวทางปฏิบัติในการดำเนินการทางวินัยข้าราชการตำรวจที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องหรือพัวพันกับยาเสพติด 
                  - คดียาเสพติด โดยเฉพาะคดีเสพหรือจำหน่ายทุกเรื่อง ให้พิจารณาถึงพฤติการณ์ก่อนถูกจับกุมว่า ผบ.ตามคำสั่ง ตร.1212/37 ควรรู้หรือทราบพฤติการณ์มาก่อนหรือไม่และได้กวดขันดูแลมากน้อยเพียงใดเนื่องจากผู้ติดยาหรือจำหน่ายน่าจะมีพฤติการณ์มาก่อนถูกจับกุม การที่ ผบ.อ้างเพียงได้ประชุมชี้แจงอบรมในภาพรวมยังไม่พอฟังได้ว่าไม่บกพร่อง  
                  - โทรสาร ตร.24 ต.ค.55 ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้ดำเนินการทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด ให้พิจารณาสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทุกราย และให้พิจารณาข้อบกพร่องผู้บังคับบัญชาตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ทุกราย   | 
                
                
                  22  | 
                  การดำเนินการทางวินัยลูกจ้างประจำ | 
                  - เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ.2537 และคำสั่ง ตร.ที่ 1365/2537 เรื่องมอบหมายอำนาจการดำเนินการเกี่ยวกับลูกจ้างประจำ 
                  - ตัวอย่างการดำเนินการทางวินัยลูกจ้างประจำ (นักการภารโรง)  
                  - ตัวอย่างการสอบสวนวินัยและลงโทษของ สภ.ชุมแพ  | 
                
                
                  23  | 
                  ข้าราชการตำรวจเจ็บป่วย ทุพพลภาพ จิตฟั่นเฟือน จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้  | 
                  - สั่งให้ออกจากราชการตามมาตรา 100(1) หรือตามมาตรา 100(3) โดยมีแนวทางปฏิบัติตามหนังสือ ตร.ลง 31 ต.ค.27 และ 24 มี.ค.30  
                  - ระเบียบตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่9 การออกจากราชการ  | 
                
                
                  24  | 
                  ข้าราชการตำรวจสมัครไปปฏิบัติงานใดๆ ตามความประสงค์ของทางราชการ  | 
                  - สั่งให้ออกจากราชการตามมาตรา 100(2) โดยมีแนวทางปฏิบัติตามหนังสือ ตร. 24 ส.ค.50  
                  - ระเบียบตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่9 การออกจากราชการ  | 
                
                
                  25  | 
                  การมอบอำนาจตามคำสั่ง ตร.ที่436/48  | 
                  - ผบ.ผู้รับมอบอำนาจพิจารณาตาม ม.91 วรรค3 ต้องพิจารณาว่ากรณีเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ ไม่อาจเพิ่มโทษได้  
                  - มติ ก.ตร. ผบ.ชั้นต้นที่ดำเนินการทางวินัยแต่ไม่สามารถลงโทษได้เนื่องจากโทษนั้นเกินอำนาจ จึงเสนอเรื่องให้ ผบ.ชั้นเหนือพิจารณาสั่งลงโทษ ถือได้ว่าการสั่งลงโทษของ ผบ.ชั้นเหนือนั้นเป็นการสั่งในฐานะ ผบ. ตาม ม.89 วรรคหนึ่ง ซึ่งต้องรายงานผลการดำเนินการทางวินัยต่อ ผบ.ชั้นเหนือขึ้นไปตาม ม.91  
                   | 
                
                
                  26  | 
                  การพิจารณาความผิดและกำหนดโทษ | 
                  - ควรคำนึงถึงหลักนิติธรรม, หลักมโนธรรม, หลักความเป็นธรรม (ลักษณะของการกระทำผิด, ผลแห่งการกระทำผิด, คุณความดี, การรู้หรือไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด, การให้โอกาสแก้ไขความประพฤติ, เหตุเบื้องหลังการกระทำผิด, สภาพของผู้กระทำผิด), นโยบายของทางราชการประกอบกัน | 
                
                
                  27  | 
                  เทคนิคการสืบสวน | 
                  - คำบรรยายเทคนิคการสืบสวนและการสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงหรือคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและเทคนิคการซักถาม | 
                
                
                  
  |